1. การออกแบบรางป้อนและเคลือบผิวถ้วยแบบเฉพาะทาง

รางด้านในของถ้วยต้องสามารถนำชิ้นงานเคลื่อนไปได้อย่างราบรื่น โดยไม่ทำให้เกิดรอยขีดข่วนหรือความเสียหาย ชนิดของวัสดุที่ใช้เคลือบหรือขึ้นรูปมีผลอย่างมาก เช่น:

• เคลือบโพลียูรีเทนหรือเทฟลอน – สำหรับชิ้นงานที่เปราะบางหรือมีผิวขัดมัน
• รางเหล็กชุบแข็ง – เหมาะสำหรับชิ้นงานที่มีน้ำหนักหรือมีผิวหยาบ

• รางรูปทรงสั่งทำพิเศษ – สำหรับชิ้นงานที่มีรูปทรงไม่ปกติ

2. กลไกการจัดทิศทางชิ้นงานขั้นสูง

บางชิ้นงานจำเป็นต้องมีระบบช่วยเสริมในการจัดเรียงทิศทาง เช่น:

• ระบบเป่าลม – ใช้ลมพ่นเพื่อคัดชิ้นงานที่หันผิดทิศทางออก
• ระบบตรวจสอบด้วยกล้อง AI – ตรวจสอบตำแหน่งชิ้นงานแบบเรียลไทม์

• กับดักกลไกและใบปัด – แยกชิ้นงานที่ไม่ผ่านมาตรฐานทิ้ง

3. การควบคุมความเร็วและแรงสั่นสะเทือนแบบแปรผัน

ต่างจากเครื่องป้อนแบบหมุน ที่ใช้แรงเหวี่ยง ตัวป้อนถ้วยแบบโรตารี ใช้แรงสั่นสะเทือนแบบควบคุม การปรับความเร็วและแรงสั่นให้เหมาะสมสามารถช่วยได้มาก:

• ลดความเสียหายของชิ้นงาน – ใช้ความเร็วต่ำสำหรับชิ้นงานที่เปราะบาง
• เพิ่มอัตราการป้อน – ใช้ความเร็วสูงเมื่อผลิตในปริมาณมาก

4. ระบบป้อนหลายราง 

ในงานที่ต้องใช้ความเร็วสูงหรือชิ้นงานขนาดเล็ก การใช้หลายรางสามารถช่วยให้ป้อนชิ้นงานได้พร้อมกันหลายชิ้น เพิ่มผลผลิตเป็น 2–3 เท่า โดยไม่ต้องเพิ่มเครื่องจักร

5. ระบบลดเสียงและฝุ่น

ในอุตสาหกรรมที่ต้องควบคุมความสะอาด เช่น อิเล็กทรอนิกส์หรือยา การลดเสียงและฝุ่นเป็นสิ่งจำเป็น โดยสามารถติดตั้ง:

• โครงครอบแบบพิเศษ 
• วัสดุดูดซับเสียง